Wednesday, 10 December 2014

ผู้จัดทำ

 

1.นายทักษ์ดนัย ทองนาก 57142206
2.นายศุภฤกษ์ ลินลาจม 57142278
3.น.ส.วลัยพร รักษาดงดอย 57142203
4.น.ส.จารุมน จันทร์อ่อน 57142212
5.น.ส.นภัสวรรณ ศรีหล้า 57142216

การตลาด

  เครื่องเงินของวัดศรีสุพรรณนั้น มีการทำขายทั้งขนาดภาพใหญ่-เล็ก สามารถสั่งทำตามลวดลายที่ต้องการได้ และมีการสั่งออกไปต่างจังหวัด รวมถึงคนไทยในต่างประเทศก็สั่งซื้อได้ราคาขึ้นอยู่กับลวดลายและขนาดของภาพ วัดศรีสุพรรณ เน้นการจำหน่ายให้แก่นักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างประเทศ ซึ่งสามารถจำหน่ายได้ในราคาสูง

             มีการประชาสัมพันธ์สินค้าและผลิตภัณฑ์ตามงานแสดงสินค้าที่อำเภอ และสถานที่ราชการ รวมไปถึงถนนคนเดิน สินค้าที่ทางกลุ่มผลิตจะเน้นเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า โดยการสร้างสินค้าให้มีความหลากหลายในการจำหน่ายสินค้า ราคาที่ตั้งจะคำนวณจากความยากง่ายของลวดลาย กลุ่มแกะสลักล้านนามีแหล่งจำหน่ายสินค้าอยู่ที่วัดศรีสุพรรณ ซึ่งจะมีนักท่องเที่ยวมาอุดหนุนและแวะมาเยี่ยมชมกระบวนการผลิตสินค้า




ขั้นตอนในการทำ

ตอนที่ 1 การเตรียมอุปกรณ์และวัสดุ
                1.ออกแบบลวดลายลงในกระดาษตามที่ต้องการ

                2.การเตรียมโครงร่างของแผ่นเงิน โดยทำออกมาให้สามารถเทชันลงไปได้

3.การทำชัน นำชันกับน้ำมันพืชและดินป่นต้มแล้วคนให้เข้ากัน การใช้งานต้องใช้ในขณะที่ละลาย เพราะง่ายต่อการตักใส่โครงร่าง

ตอนที่ 2 ขั้นตอนในการทำ


1.นำชัน ที่ต้มมาเทในโครงร่างแผ่นเงินที่เตรียมไว้ให้เต็ม ตากให้เย็นจึงสามารถนำไปทำขั้นตอนต่อไป          


2. หลังจากเทชัน ใส่โครงร่างแผ่นเงินแล้วนำกระดาษที่ออกแบบลวดลาย ติดบนแผ่นเงิน      



3. จากนั้นใช้สิ่วหัวแบน แกะลายตามแบบกระดาษที่ติดบนแผ่นเงิน




4. หลังจากแกะลายเสร็จ ถึงขั้นตอนการดุนโดยใช้สิ่วตอกบริเวณที่ต้องการในการดุนจะมีขนาดตั้งแต่เล็กไปถึงใหญ่ เลือกใช้ตามความละเอียดของลวดลาย

5.เมื่อทำการดุนเสร็จจะเป็นการเก็บรายละเอียด โดยการใช้ความร้อนของหัวพ่นทำให้ชันอ่อนตัวลงและดุนลายได้ง่ายขึ้นตามความต้องการ
6.ทาสี ทิ้งไว้ให้แห้งจากนั้นใช้ผ้าขัดเงา เพื่อให้เกิดมิติและสวยงามขึ้น


7.นำสีเคลือบเงาใส่ในกาพ่น แล้วนำไปพ่นตามที่ต้องการ
8.ขั้นตอนสุดท้าย การเลือกบรรจุภัณฑ์ตามความเหมาะสมหรือนำไปตกแต่งในสถานที่ต้องการ เพื่อสร้างมูลค่าของงานและให้ภาพเกิดความสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น

   
ระยะเวลาในการทำ
สำหรับระยะเวลาในการดุนเครื่องเงินนั้น ขึ้นอยู่กับหลายๆสิ่ง ดังต่อไปนี้
            1. ความละเอียดของลายเส้น
            2. การดุน เครื่องเงินตามขนาดความนูนของภาพ
            3. ขนาดของภาพ
วีดีโอ










วัสดุ-อุปกรณ์




1. แผ่นเงิน หรือ แผ่นอะลูมิเนียม ที่ใช้ในงานในการดุน จะมีหลายขนาดขึ้นอยู่กับการเลือกใช้ของช่างแต่ละคน



2. ค้อน ใช้ตอกตะปูและสิ่วในการตอกลายลงบนแผ่นอลูมิเนียม ค้อนแต่ละขนาดก็มีการใช้งานที่แตกต่างกันไป


3.สิ่วสลักดุน ขนาดต่างๆ  สิ่วที่ใช้ในการดุนจะมีขนาดตั้งแต่เล็กไปถึงใหญ่การเลือกใช้ขึ้นอยู่กับความละเอียดของลวดลาย

4. กระดาษ ออกแบบลวดลาย

5. กาว ใช้ในการติดกระดาษกับแผ่นเงิน

6. ตะปู ใช้ในการตอกแผ่นอลูมิเนียมให้ยึดอยู่กับชัน



7.ชัน ใช้สำหรับรองพื้นแผ่นชิ้นงาน เพื่อป้องกันการยุบตัวของชิ้นงานที่ทำการดุน และ ช่วยให้งานไม่เสียรูปทรง

8.น้ำมันพืช ใช้ผสมกับชัน



9.กระทะใหญ่ นำชันใส่ลงในกระทะเพื่อทำให้ละลาย 


10.ทัพพีใหญ่ ใช้ในการตักชัน 


11.ฝอยขัด ใช้ในการขัดแผ่นเงินที่ลงสีแล้วเพื่อให้ภาพเกิดมิติมากขึ้น 


12.กระดาษทราย ใช้ในการขัดแผ่นเงินให้เรียบเนียน 

13. สี ให้ภาพมีความเงางาม

14.ถังแก๊สและหัวพ่น เป็นอุปกรณ์ที่ให้ความร้อน ทำให้ชันหรือครั่งอ่อนง่ายต่อการดุนแผ่นเงินให้นูนตามต้องการได้ และใช้สำหรับการนำชันออกหลังจากทำชิ้นงานเสร็จ



15.คีม สำหรับตัดแผ่นอลูมิเนียม ให้ได้ขนาดตามที่ต้องการ


16.สีเคลือบเงา



17.กาพ่นสีเคลือบเงา





ประวัติความเป็นมา

เครื่องเงิน

          เดิมเมืองเชียงใหม่เป็นประเทศเอกราชปกครองตนเอง มีเจ้าเมืองหรือผู้ปกครองนครสืบทอดต่อๆมาและปรากฏหลักฐานว่า พญามังรายเมื่อสร้างเมืองเชียงใหม่ได้สร้างความสัมพันธ์กับเมืองพุกาม จึงได้ขอช่างฝีมือเรื่องเครื่องเงินเข้ามาผลิตและเป็นครูสอนที่เมืองเชียงใหม่ เพื่อเป็นการฝึกฝนและสร้างอาชีพ ให้กับชาวเชียงใหม่ทำให้ชาวชียงใหม่มีความรู้ด้านเครื่องเงินเพิ่มขึ้น มีการสั่งสอนสืบทอด ต่อๆกันมา
        ประเพณีการทำบุญชาวล้านนาโดยเฉพาะชาวเชียงใหม่ได้ยืดถือ และปฏิบัติมาตั้งแต่โบราณในการทำบุญใส่บาตร ประชาชนส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ ได้เลียนแบบและสืบทอดสืบทอดการมาเป็นที่นิยมนำภาชนะที่ใส่อาหารหรือของไปถวายพระ ซึ่งทำด้วยเงินเพราะถือว่าเป็นบุคลาชั้นสูงเหมือนเช่นเจ้านายผู้ปกครองนครเช่นกัน เมื่อมีการทำบุญก็นิยมนำอาหารใส่ภาชนะที่ทำด้วยเงิน ซึ่งได้ดัดแปลงเป็นของใช้ต่างๆอาทิเช่นขันน้ำ พานรอง พาน ถาด หม้อข้าวฯลฯ ซึ่งนิยมสืบทอดมาจนถึงทุกวันนี้
           เครื่องประดับ การแต่งกายของหญิง-ชาย สมัยโบราณนิยมใช้เครื่องประดับต่างๆ ยิ่งเป็นชนชั้นผู้ปกครองแผ่นดิน หรือชั้นเจ้าผู้ปกครองแคว้นต่างๆด้วยแล้ว ก็จะมีเครื่องประดับที่มีราคามากขึ้น เครื่องประดับที่นิยมใช้กันอยู่อาทิเช่น ตุ้มหู กำไล สายสร้อย เข็มขัด แหวน ฯลฯ
         ของใช้ในครัว ในสมัยโบราณโลหะเงินจะราคาไม่แพงมากนัก และจะเป็นโลหะที่หายาก แต่ก็นิยมนำมาประดิษฐ์เป็นสิ่งของเครื่องใช้ในครอบครัวได้ เป็นโลหะเงินที่ดี 100% เมื่อขัดแล้วจะเป็นเงา สามารสลักลวดลายให้เป็นไปตามความต้องการได้ จึงมีการผลิตเป็นอุปกรณ์ของใช้ในรูปแบบต่างๆ

วัดศรีสุพรรณ



วัดศรีสุพรรณ เป็นวัดเก่าแก่สร้างมานานกว่า 500 ปี พัทธสีมานุสรณ์มีหลักศิลาจารึกที่บันทึกประวัติความเป็นมาของวัดไว้เป็นหลักฐานที่สำคัญ ซึ่งได้ระบุว่าวัดศรีสุพรรณอารามได้ทำการผูกพัทธสีมาเมื่อปี พ.ศ. 2052 ซึ่งได้ครบรอบ 500 ปี
สีมา แปลว่า เขตแดน เขตบ้านเมืองเรียก “ขอบขัณฑ์สีมา” สำหรับสงฆ์การกำหนดเขตสีมาเพื่อเป็นที่ให้พระสงฆ์ทำสังฆกรรมนั้นมีหลายลักษณะ เช่น กำหนดโดยเอาครอบคลุมทั้งหมู่บ้าน เรียก “คามสีมา” รวมหลายๆหมู่บ้าน เป็นแคว้นหรือเขตแดน เรียก “นิคามสีมา” หรือ “นครสีมา” ซึ่งมีสีมาเหล่านี้จัดเป็น “อพัทธสีมา” คือเป็นสีมาที่ไม่กำหนดเขตแน่นอนและเอาเขตของบ้านเมืองเป็นเกณฑ์ ไม่มีการกำหนดเขตโดยความพร้อมเพรียงแห่งสงฆ์สำหรับ “พัทธสีมา” แปลว่า แดนที่ผูก คือ สงฆ์พร้อมเพรียงกันกำหนดแดนอย่างแน่นอนให้มีความกว้างและยาวตามแต่จะกำหนด และมีการหมายเขตแดนไว้เป็นสำคัญ เรียกว่า “นิมิต” ซึ่งในบาลีกำหนดให้ใช้สิ่งต่างๆ เช่น ภูเขา ศิลา ป่าไม้ ต้นไม้ จอมปลวก หนทาง แม่น้ำ ใช้เป็นนิมิตกำหนดเขตแดนได้ทั้งนั้น ในปัจจุบันใช้ศิลา (หิน) เป็นหลักเพราะมั่นคงกว่าอย่างอื่น
ในสมัยโบราณ การฝังนิมิต (ศิลา) ไม่ใช้หินกลม ใช้หินแท่งมีทั้งทำเป็นสี่เหลี่ยม แปดเหลี่ยมและแบบใบเสมา คือ เป็นแผ่นหินดังจะเห็นที่เป็นแปดเหลี่ยมที่อุโบสถวัดเจ็ดยอด วัดพระสิงห์และที่เป็นแบบใบเสมาที่วัดศรีสุพรรณนี้
ในปัจจุบันชุมชนวัวลาย วัดศรีสุพรรณ ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของภูมิปัญญาท้องถิ่นงานหัตถกรรมเครื่องเงิน จึงได้จัดทำอุโบสถเงินขึ้น เพื่อสืบทอดงานหัตถกรรมท้องถิ่น รวมไปถึงการดำเนินงานทางธุรกิจด้านการทำเครื่องเงิน โดยมีที่ตั้ง คือ บริเวณวัดศรีสุพรรณ ถนนวัวลาย ตำบลหายยา อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ปัจจุบันวัดศรีสุพรรณมีเจ้าอาวาสคือ พระครูพิทักษ์ สุทธิคุณ ท่านได้เป็นผู้ที่พัฒนาในด้านต่างๆของวัด ทั้งด้านศาสนาวัตถุ การก่อสร้างและการปฎิสังขรณ์สิ่งปลูกสร้างต่างๆ รวมไปถึงการจัดการวัดให้มีความร่มรื่น สวยงาม และร่วมรักษาไว้ซึ่งศิลปะวัฒนธรรมทางล้านนามาอย่างต่อเนื่อง จึงอยากที่จะรักษาให้เป็นมรดกทางปัญญา ที่ต้องรักษาเผยแพร่ไม่ให้สูญหายไปและให้ลูกหลานได้สืบต่อๆไป

อุโบสถเงิน


ความเป็นมา
อาศัยมิติทางพระพุทธศาสนา บูรณาการกับมิติทางภูมิปัญญาท้องถิ่น หัตถกรรมเครื่องเงินวัวลายที่ได้สืบทอดจากบรรพบุรุษมากกว่า 200 ปี
ปณิธานในการจัดสร้าง
          ให้เป็นศาสนสถานหลังแรกของโลกเพื่อฝากศิลป์แก่แผ่นดินถิ่นล้านนา ถวายไว้ในบวรพระพุทธศาสนาและเทิดไท้องค์ราชัน รัชกาลที่ 9
การก่อสร้าง
              ปฏิสังขรณ์จากฐานและเขตพัทธสีมาของอุโบสถหลังเดิมที่ชำรุดทรุดโทรมลง โครงสร้าง สา คาน ผนัง ก่ออิฐ ถือปูน เสริมเหล็ก ขนาดกว้าง 5 เมตร ยาว 17.50 เมตร สูง 18 เมตร รูปทรงสถาปัตยกรรมล้านนา
การประดับตกแต่ง
           ใช้กรรมวิธีภูมิปัญญาท้องถิ่นหัตถกรรมเครื่องเงินชุมชนวัวลาย โดยใช้วัสดุจากอลูมิเนียม(วัสดุแทนเงิน) เงินผสมและเงินบริสุทธิ์ สลักลวดลาย บุดุน ประดับตกแต่งตั้งแต่หลังคา ผนังภายในภายนอกรวมทั้งหลัง

ศิลปะ
             แนวประเพณีล้านนา โดยกลุ่มหัตถศิลป์ล้านนาวัดศรีสุพรรณ ศูนย์ศึกษาศิลปะไทยโบราณสล่าสิบหมู่ล้านนาวัดศรีสุพรรณและช่วงภูมิปัญญาท้องถิ่นวัวลาย
งบประมาณ
                จำนวนประมาณ 25,000,000 บาท
ความมุ่งหวัง
               ให้อุโบสถเงินหลังนี้เป็นสมบัติอันล้ำค่าของชาติและพระพุทธศาสนาโดยมีผู้มีจิตศรัทธาจากหน่วยงานภาครัฐเอกชนและพุทธศาสนิกชนทั่วไปได้มีส่วนร่วมในการสร้างศิลป์แก่แผ่นดินถิ่นล้านนา ถวายไว้ในบวรพระพุทธศาสนาและเทิดไท้องค์ราชัน รัชกาลที่ 9 ร่วมกันสืบไป






การดุนเครื่องเงินล้านนา
               

  

งานหัตกรรมเครื่องเงิน ถ้าพูดถึงทุกคนก็ต้องนึกถึงเครื่องเงินชุมชนบ้านวัวลายที่มีประวัติความเป็นมาอันยาวนาน อีกทั้งชุมชนบ้านวัวลายยังเป็นแหล่งกำเนิดและแหล่งผลิตเครื่องเงินที่มีชื่อเสียงมาตั้งแต่บรรพบุรุษแล้ว งานส่วนใหญ่จะเป็นงานที่มีรูปแบบนูนสูง ซึ่งชิ้นงานจะลดระดับกันลงไปตามลวดลาย ที่มีความงดงามเป็นอย่างยิ่ง ให้ความรู้สึกสมจริง การผลิตงานเครื่องเงิน จะต้องอาศัยสมาธิและอารมณ์
              ปัจจุบันชาวบ้านชุมชนวัดศรีสุพรรณ ได้เล็งเห็นความสำคัญของภูมิปัญญาท้องถิ่นงานหัตถกรรมเครื่องเงิน เพื่อสืบทอดงานหัตถกรรมท้องถิ่น รวมไปถึงการดำเนินธุรกิจด้านการดุนลายเครื่องเงินและการดุนโลหะ โดยที่ที่ตั้งอยู่บริเวณวัดศรีสุพรรณ ถนนวัวลาย ตำบลหายยา อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่  มีนักท่องเที่ยวและนักเรียนเข้ามาเยี่ยมชมภายในวัดศรีสุพรรณอยู่ตลอดเวลา รวมถึงเข้ามาเรียนรู้วิธีการการดุนโลหะ เป็นการปลูกจิตสำนึกในการรักษามรดกทางภูมิปัญญาการทำเครื่องเงินอันล่ำค่าเหล่านี้ไม่ให้สูญหายไป